ทายาท
หญิงสาวหน้าตาธรมด๊า..ธรรมดาคนหนึ่ง เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนเท่านั้น แต่ใครจะไปรู้แท้จริงเธอคือ ทายาทแห่งตระกูลดัง อภิมหาเศษฐ๊!!
ผู้เข้าชมรวม
301
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฉันถือกระดาษแผ่นหนึ่งด้วยมืออันสั่นเทา ในกระดาษแผ่นนั้นมีข้อความไม่ยาวสักเท่าไหร่
" คุณ สุพิณสา มวลกุล คุณคือทายาทของบ้าน พิมานเฉวต ซึ่งคุณคือลูกสาวของ ท่าน นฤธาน พิมานเฉวต ขณะนี้ท่านได้เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ และพินัยกรรมของท่านได้ประกาศไว้ว่า คุณ สุพิณสา จะได้เป็นผู้คอบครองบ้านพิมานเฉวตแต่เพียงผู้เดียว"
เมื่ออ่านข้อความจบฉันพยายามนึก ว่าฉันไปเกี่ยวข้องกับบ้านนี้ได้อย่างไรกัน บ้านที่มีตระกูลสูงส่งดังไปทั่วประเทศ ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตหลายแห่ง และร่ำรวยถึงขั้น อภิมหาเศษฐี หนึ่งเดียวในประเทศไทย แต่ฉันน่ะสิ!! ฉันมันก็แค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่โตขึ้นมาได้ ด้วยความเมตตาของสถานสงเคราะห์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า จนฉันสามารถยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้
คงจะไม่จริงล่ะมั้ง >< อย่างฉันจะกลายเป็นลูกเศรษฐีได้อย่างไรกัน ฉันพลิกซองจดหมายดู เพื่อให้มั่นใจว่ามันส่งมาจากไหน ใครกันนะ ที่จะมาเล่นตลกกับฉัน หรือคิดจะเล่นสงครามประสาทกันก็เป็นได้ แต่สายตาฉันก็ต้องมาหยุดและหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อผู้ที่ส่งจดหมายลงชื่อว่า
" ทนายความประจำตระกูลพิมานเฉวต" แต่กลับไม่เห็นจะมีที่อยู่เลยสักนิดเดียว
วันนี้ฉันถึงกีบตะลึง! งง ค้างสตั๊นไปอยู่นานโขเลยทีเดียว เมื่อมีรถคันหรูมาจอดอยู่ที่หน้าห้องเช่าของฉัน ฉันพยายามที่จะไม่มองคนขับรถ และเบียดตัวอ้อมหลังรถเพื่อจะออกไปทำงานโดยปกติ
" คุณ สุพิณสา ครับ"
เสียงทุ้มทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองคนที่เรียกฉันอยู่ในชุดสูทสีดำขลับ ใบหน้าขาวนวลราวกับผิวผู้หญิงซึ่งผิดกับฉันที่ผิวหน้าหยาบกร้าน หาความสวยไม่เจอเอาซะเลย
" เอ่อ..ค่ะ คุณเรียกฉันหรือคะ?"
ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยแน่ใจ เขาจะเรียกฉันจริงๆ หรือฉันหูฝาดไปเอง 0.-
" ครับ.. ผมเรียกคุณ คุณได้รับจดหมายแล้วใช่มั้ยครับ"
"ช..ชะ..ใช่! ใช่ค่ะ ได้รับแล้ว"
ฉันทำหน้า งง เล็กน้อยก่อนที่จะตอบไป
"ผมชื่อ ทัพทิม ครับ เป็นคนขับรถประจำตัวของตระกูล พิมานเฉวต ครับ"
ฉันอึ้งกับคำพูดของเขาเล็กน้อยก่อนจะแอบหยิกแขนตัวเองโดยไม่ให้ชายชุดดำเห็น ฉันจึงได้รู้ว่านี่คือความจริงไม่ใช่ความฝัน
"ค่ะ.. มีเรื่องอะไรเหรอค่ะ?"
ฉันถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วแต่ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองสักเท่าไหร่
"ผมได้รับคำสั่งมาว่าให้มารับคุณไปที่บ้าน วิมานเฉวตภายในวันนี้ครับ"
ฉันไม่อยากจะเชื่อตัวเองและไม่อยากจะเชื่อสายตาสิ่งที่ฉันเห็นไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงไปได้ ตลอดระยะทางที่นั่งรถมาฉันก็แอบหยิกแขนตัวเองเป็นระยะๆ เพื่อให้ตื่นจากความฝันเสียที แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น แขนฉันปวดและเป็นจ้ำเขียวๆ จากการหยิกของฉัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ คนหน้าตาดำๆ ผิวหยาบกร้าน รูปร่างค่อนข้างอวบ ผมหยิกฟู ใส่แว่นหนาเตอะอย่างฉัน จะได้เป็นถึงลูกเศรษฐีจริงๆหรือ??
ฉันก้าวขาลงจากรถเบื้องหน้าเป็นบ้าน ไม่ใช่สิ!! น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า เพราะมันช่างใหญ่โตเหลือเกิน พื้นเป็นหินอ่อนภายในตกแต่งด้วยของต่าง ๆ สีทองและน้ำตาลดูสบายตาและสวยงามมากจริงๆ
" เข้ามานั่งใกล้ๆ ฉันสิ สุพิณสา"
เสียงเล็กแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันหลุดจากการจินตนาการที่วาดฝันไว้ ฉันหันไปตามเสียงก็ปรากฏร่างผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาวนวล ผมยาวเหยียดตรงสวยงาม หน้าตาสวยราวกับนางงามเลยทีเดียว อายุไม่น่าจะเกิน 40 ปี ฉันเดินเข้าไปหาโดยไม่นึกกลัวเลยซักนิดราวกับว่าฉันถูกมนต์สะกดของแม่มดในนิทาน
" ฉันคือภรรยาของคุณ นฤธาน ผู้เป็นเจ้าของบ้านนี้"
เธอยิ้มหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อ
" ไม่ต้องสงสัยหรอกฉันไม่ใช่แม่ของเธอ ฉันเป็นภรรยาคนที่สองหลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว ฉันชื่อ นลัยวรรณ ยินดีที่มีเธอมาอยู่ด้วยนะ ฉันจะได้ไม่เหงา"
เมื่อหญิงที่บอกว่าเป็นภรรยาของ คุณนฤธาน พูดจบ เธอก็เดินออกจากห้องไปปล่อยให้ฉันนั่ง งง อยุ่คนเดียวภายในห้องรับแขก และสิ่งที่ทำให้ฉันยิ่ง งง เป็นไก่ตาแตกขึ้นไปอีก คือเธอพูดราวกับรู้ว่าฉันกำลังสงสัยว่าเธอคือแม่ของฉันหรือเปล่า เธอรู้ความคิดฉันได้ยังไงกัน??
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ฉันก็มีความสุขดี คุณนลัยวรรณ ซึ่งต่อมาเธอให้ฉันเรียกเธอว่า "คุณน้า" คุณน้าก็เป็นคนที่ดีมากๆ คอยจัดแจงเรื่องอาหารหรือเรื่องเสื้อผ้า รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่ฉันต้องการมาให้ทุกครั้ง ฉันรู้ว่าฉันออกจะเอาแต่ใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่เห็นจะมีใครมาว่าฉันเลย แต่ที่ฉันสงสัยมานานหลังจากที่อยู่มาเกือบปี คุณน้าให้ฉันไปเที่ยวไหนก็ได้ตามอำเพอใจไม่บ่นฉันสักคำ
ฉันจึงสนุกกับการใช้เงินวันละมากๆ แต่คุณน้าจะไม่ชอบให้ฉันออกนอกบ้านตอนกลางคืน ฉันเข้าใจอยู่ว่าคฤหาสน์นี้ห่างจากตัวเมืองมาก ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมาสักเท่าไร แต่จะให้คนขับรถพาไปก็ได้ ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยอีกอย่างที่เปลี่ยนไปมากในชีวิตฉัน ก็คือ ฉันสวยขึ้นผิดหูผิดตาเลยล่ะ ทั้งผมที่ตรงสวย ผิวขาวนวล รูปร่างผอมเพียว ไม่ต้องใส่แว่นอีกต่อไปแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้เปลี่ยนฉันได้ขนาดนี้ คุณน้าบอกฉันแค่ว่า ถ้าถึงวันเกิดปีที่ 25 ของฉันเมื่อไร ฉันจะเข้าใจเอง
นี่ก็ผ่านวันเกิดของฉันมาหลายเดือนแล้ว คุณน้าเสียชีวิตลง ด้วยโรคบางอย่าง ไม่อยากจะเชื่อเลย สวยๆ ดูแข็งแรงอย่างคุณน้าจะเป็นโรค แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจที่คุณน้าเคยพูดไว้เหมือนเดิม รู้อย่างเดียวว่าตอนนี้ฉันชอบออกข้างนอกตอนกลางคืนมากเลย ไม่มีคุณน้าคอยห้ามแล้วนี่ พูดก็พูดเถอะชักรู้สึกหิวขึ้นมาสะแล้ว ไปหาอะไรกระแทกท้องดีกว่า
-------------------------------------------
เธอเก็บสมุดบันทึกลงในลิ้นชักแล้วล็อกกุญแจอย่างดี ก่อนที่จะลมตัวลงนอนบนเตียงที่นุ่มราวกับฟองน้ำ และค่อยๆ ขยับหัวไปมา จนหัวเริ่มหลุดลอยจากคอเผยให้เห็นตับ ไต ใส้พุง ต่างๆ นานา และออกจากห้องไปทางหน้าต่าง ในราตรีที่มืดสนิท
ผลงานอื่นๆ ของ มะวัลย์ รินดาร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มะวัลย์ รินดาร์
ความคิดเห็น